บ้านสไตล์โมเดิร์น…สวยทันสมัยใครๆ ก็ชอบ

ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึงกันแต่บ้านสไตล์โมเดิร์น เจ้าของบ้านที่อยากปลูกบ้านหลังใหม่ก็มักเลือกสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์นกันแทบทั้งนั้น แล้วเคยสงสัยมั้ยครับว่านิยามของคำว่า “โมเดิร์น” มันคืออะไร บ้านสไตล์ไหนถึงจะเรียกว่า “โมเดิร์น” หรือว่าบ้านสไตล์โมเดิร์นต้องมีลักษณะเป็นแบบไหนอย่างไร

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนครับว่า “โมเดิร์น” แปลว่า “สมัยใหม่” ซึ่งคำว่า “สมัยใหม่” มันไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัว อะไรที่เป็นของใหม่ เป็นสิ่งที่เพิ่งได้รับความนิยมไม่นานนัก และมีรูปแบบที่แตกต่างจากแนวทางเดิมๆ ซึ่งเคยนิยมกัน ก็เรียกว่า “โมเดิร์น” ได้ทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นบ้าน “โมเดิร์น” ในยุคนี้ เมื่อผ่านไปอีกสักสิบยี่สิบปี ก็อาจกลายเป็นรูปแบบบ้านที่ล้าสมัย และมีบ้านสไตล์โมเดิร์นแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมาแทน

อย่างไรก็ตาม หากเราพูดถึงนิยามของคำว่า “บ้านสไตล์โมเดิร์น” ในทุกวันนี้ ก็จะหมายถึงบ้านมีรูปลักษณ์แตกต่างจากบ้านเรือนยุคเก่าส่วนใหญ่ในประเทศไทย ลักษณะเฉพาะของบ้านสไตล์โมเดิร์นในยุคปัจจุบันพอจะสรุปได้ดังนี้ครับ

หลังคาเป็นทรงเพิงแหงนหรือพื้นราบ ลักษณะเด่นชัดที่สุดของบ้านสไตล์โมเดิร์นคือ หลังคาไม่ใช่ทรงจั่วหรือทรงปั้นหยาเหมือนบ้านเรือนในยุคก่อน ส่วนใหญ่จะใช้หลังคาทรงเพิงแหงน หรือบางหลังก็อาจใช้หลังคาแบบพื้นราบ (ขนานกับพื้นดิน) แม้ว่าสไตล์โมเดิร์นส่วนใหญ่จะใช้หลังคาทรงเพิงแหงน แต่ก็สามารถออกแบบให้สวยงามและดูมีลูกเล่นได้ด้วยการเล่นระดับและทิศทางของหลังคา เพื่อให้รูปทรงโดยรวมของหลังคาดูน่าสนใจขึ้น ไม่ใช่เป็นเพิงแหงนระดับเดียวทิศทางเดียวซึ่งดูไม่สวยงาม

รูปแบบหลังคาทรงเพิงแหงนหรือพื้นราบนี้ เป็นคุณสมบัติเด่นชัดที่สุดของสไตล์โมเดิร์นในยุคนี้ก็ว่าได้ครับ บ้านหลังไหนปลูกสร้างโดยใช้รูปทรงหลังคาดังกล่าว ก็สามารถเรียกว่าบ้าน “สไตล์โมเดิร์น” ได้โดยไม่ต้องดูองค์ประกอบส่วนอื่นด้วยซ้ำ

โครงสร้างทำด้วยคอนกรีตหรือเหล็ก จุดเด่นอีกอย่างของสไตล์โมเดิร์นยุคนี้คือจะเน้นใช้วัสดุที่ประหยัด หลีกเลี่ยงการใช้ไม้จริงซึ่งมีราคาแพงมากและดูแลรักษายาก วัสดุหลังคาโดยมากจะเลือกใช้แผ่นเมทัลชีต โดยอาจเลือกบุฉนวนกันความร้อนเช่นพียูโฟม ข้อดีของเมทัลชีตคือมีราคาถูกกว่ากระเบื้อง นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบากว่ามาก ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของโครงหลังคาไปได้ในตัว

โครงสร้างของบ้านสไตล์โมเดิร์นส่วนใหญ่แล้วจะใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) ร่วมกับเหล็ก เช่น ส่วนของฐานราก, ตอม่อ, คาน, เสา ใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนของโครงหลังคาใช้เหล็ก เป็นต้น หรือบ้านบางหลังอาจใช้โครงสร้างเหล็กทั้งหลังเลยก็มี โดยตีผนังด้วยไม้ฝาหรือพวกสมาร์ตบอร์ด ซึ่งบ้านที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กและเหล็กนี้ เปรียบเทียบแล้วจะมีราคาถูกกว่าบ้านที่สร้างด้วยไม้อยู่พอสมควร เพราะปัจจุบันไม้เป็นวัสดุที่หายากและมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ

เน้นใช้กระจกเป็นส่วนประกอบ บ้านสไตล์โมเดิร์นมักก่อผนังด้วยอิฐชนิดใดชนิดหนึ่ง และจะใช้กระจกเป็นส่วนประกอบสำคัญอีกอย่างหนึ่ง บ้านสไตล์โมเดิร์นบางหลังอาจมีแค่ประตูและหน้าต่างที่เป็นกระจก แต่บางหลังก็อาจใช้กระจกเป็นผนังบ้านโดยตรงด้วย ข้อดีของกระจกคือดูทันสมัย สวยงาม และโปร่งโล่ง ราคาก็มีทั้งถูกและแพงตามเกรดและความหนาของกระจก การใช้กระจกเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างที่ว่านี้ ได้รับความนิยมมาก่อนในพวกอาคารสำนักงานต่างๆ ก่อนจะนิยมนำมาประยุกต์ใช้ในบ้านพักอาศัยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครต้องการที่พักอาศัยซึ่งเป็นบ้านกึ่งออฟฟิศ การเลือกใช้กระจกจะยิ่งเหมาะครับ

นิยมตกแต่งภายนอกด้วยบัวและครีบ องค์ประกอบที่มักนิยมนำมาใช้ตกแต่งภายนอกตัวบ้านสไตล์โมเดิร์นให้ดูสวยงามมากขึ้นคือบัวและครีบ โดย “บัว” คือแท่งหรือแผ่นวัสดุที่มีลักษณะหน้าแคบแต่ยาว วัสดุที่ใช้มีทั้งคอนกรีตและเหล็ก มักนิยมติดตามจุดตัดหรือรอยต่อส่วนต่างๆ ของบ้านเพื่อเน้นน้ำหนัก เช่น ขอบประตู, ขอบหน้าต่าง, รอยต่อระหว่างปูนกับไม้ฝา หรือบางทีก็นำวางเรียงกันหลายๆ เส้นเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้บ้านดูสวยงามยิ่งขึ้น ส่วน “ครีบ” มีลักษณะเป็นแผ่นวัสดุหน้ากว้างกว่าบัว วัสดุที่ใช้มีทั้งคอนกรีตเสริมเหล็ก (ทำแบบเทคอนกรีต), ใช้โครงเหล็กหุ้มด้วยสมาร์ตบอร์ด หรืออาจก่ออิฐธรรมดา (กรณีเป็นครีบแนวตั้ง) ครีบนอกจากเพิ่มความสวยงามและลูกเล่นให้บ้านแล้ว หากติดไว้เหนือหน้าต่างหรือประตู ยังทำหน้าที่เป็นกันสาดไปในตัวด้วย

เน้นความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ นอกจากคุณสมบัติที่พูดถึงไปแล้ว บ้านสไตล์โมเดิร์นจำนวนไม่น้อยยังเลือกตกแต่งอย่างเรียบง่ายและดูเป็นธรรมชาติ เช่น พื้นไม่ปูกระเบื้อง, ผนังไม่ทาสี, เพดานไม่ตีฝ้าเพดาน, เน้นโชว์โครงสร้างของวัสดุที่นำมาประกอบเป็นบ้าน รวมถึงการใช้ปูนขัดมันกับผนังและพื้นในสไตล์ลอฟต์เพื่อให้ดูแปลกตาและทันสมัย (เรียกรวมๆ ว่า “โมเดิร์นลอฟต์”) ซึ่งการตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟต์จะเน้นความดิบ เปลือย และดูเป็นธรรมชาตินั่นเองครับ